กระต่าย เลี้ยงกระต่ายขาย

กระต่าย เลี้ยงกระต่ายขายเป็นอาชีพเสริมสำหรับเกษตรกร เพราะขายลูกได้ ขาย เนื้อได้
กลุ่มงานศึกษาและพัฒนาปศุสัตว์ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิธีการเลี้ยงกระต่ายเพื่อให้ผลตอบ แทนดีและสามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ที่ไม่มากนักเช่นหลังบ้าน

กระต่าย
กระต่ายเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ที่กินหญ้า ผักผลไม้ได้หลายชนิด ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่มาก ให้ผลผลิตเร็ว อาจจะเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น หรือขุนขายก็ได้ ประโยชน์ในการเลี้ยงกระต่ายมีหลายอย่างด้วยกัน อาทิให้ความเพลิดเพลินเป็นประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เป็นอาชีพเสริมสำหรับเกษตรกร เพราะขายลูกได้ ขาย เนื้อได้เป็นสัตว์ทดลองและผลิตวัคซีนบางชนิด ผลพลอยได้ก็มี หนังและมูลพันธุ์กระต่ายที่นิยมเลี้ยงในประเทศ ไทยเป็นพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ลักษณะประจำพันธุ์ ขนสีขาวทั้งตัว ตาสีแดง หน้าสั้น ตะโพกใหญ่ ไหล่กว้าง เนื้อแน่น ให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง โตเต็มที่หนัก 4–5 กิโลกรัม เป็นกระต่ายพันธุ์เนื้อ พันธุ์แคลิฟอร์เนียไวท์ลักษณะประจำ พันธุ์ ขนสีขาว ฟูยาว ปลายหูและปลายเท้าจะมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม ตาสีแดง โตเร็ว เลี้ยงลูกเก่ง โตเต็มที่ หนัก 2.5–4 กิโลกรัม ใช้ทำพ่อแม่พันธุ์ หรือเป็นกระต่ายเลี้ยง พันธุ์แองโกล่า ลักษณะประจำพันธุ์ ขนยาวตรง มีสีหลายสี เช่น ขาว น้ำตาล เทา ดำ หน้าสั้น ตาสีดำ หรือน้ำตาล ให้ลูกน้อย ครอกละ 2–4 ตัว โตเต็มที่หนัก 1.8–2.5 กิโลกรัม เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้ดูเล่น พันธุ์พื้นเมืองลักษณะประจำพันธุ์ ขนสีน้ำตาล ดำ ขนสั้น ตาสีดำ ทนต่อโรคและสิ่งแวดล้อม ให้ลูกดก โตเต็มที่หนัก 2.5–3.5 กิโลกรัม เหมาะสำหรับทำพ่อแม่พันธุ์

กระต่าย
ในการศึกษาเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปเลี้ยง ทั้งเพื่อเป็นอาชีพเสริมและเชิงพาณิชย์ พบว่าการเลี้ยงนอกจากพิจารณาเรื่องของพันธุ์กระต่ายที่ต้องการแล้ว ก็มีเรื่องของโรงเรือน ซึ่งควรอยู่บนที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก สามารถป้องกันศัตรู เช่น สุนัข แมว ได้ กรงกระต่ายควรทำด้วยลวดตาข่ายและอยู่สูงกว่าพื้นไม่น้อยกว่า 50 ซม.เพื่อป้องกันกลิ่นปัสสาวะของกระต่ายเอง

อาหารกระต่ายที่เป็นอาหารหยาบ ควรเป็นจำพวกที่มีเยื่อใยสูง แต่มีโปรตีนต่ำ เช่น หญ้าสด ผัก ผลไม้ ให้กระต่ายกินเป็นหลักจำนวน 10–15% ของน้ำหนักตัว วันละ 2 มื้อ หญ้ารูซี่ หญ้าขน ลิสงเถา (ถั่วปิ่นโต) ไมยราบยักษ์ แต่ไม่ควรใช้ใบกระถินเลี้ยงกระต่าย เนื่องจากมีสารมิมโมซีน ที่มีผลต่อขนกระต่ายทำให้ ขนร่วงได้ง่าย หญ้าและผักที่ฉ่ำน้ำ เช่น เปียกฝน หรืออวบน้ำ จะทำให้กระต่ายท้องเสีย จึงควรนำหญ้าหรือผักสดไปผึ่งในที่ร่มประมาณ 3–6 ชั่วโมงก่อน หรือเกี่ยวหญ้าหลังเวลา 10.00 น. ไปแล้ว อาหารข้น จำพวก อาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบต่าง ๆ จนมีปริมาณ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเกลือแร่ ฯลฯ ควรให้ตามความจำเป็นของอายุของกระต่าย ส่วนอาหารสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับโค สามารถให้กระต่ายกินได้แต่ไม่เกิน 120-180 กรัม/ตัว/วัน (ขีด-ขีดครึ่ง) เพื่อเสริมอาหารหยาบ

และจากการศึกษาในครั้งนี้พบว่าผลตอบแทนคุ้มค่าไม่น้อย โดยต้นทุน ค่าพ่อแม่พันธุ์กระต่าย ตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 8 ตัว รวม 10 ตัว ตัวละ 150 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท ค่ากรงกระต่าย ขนาด 4.80x0.60 เมตร สูง 1.80 เมตร จำนวน 2 หลัง รวมเป็นเงิน 5,000 บาท ค่าอาหารข้น 4,680 บาท ค่ายาเวชภัณฑ์ 300 บาท รวมเป็นเงิน 11,480 บาท หลังจากเลี้ยงเกษตรกรจะมีรายได้ จากที่แม่กระต่ายให้ลูก แม่ละ 5 ตัว ปีละ 4 ครอก ได้ลูกทั้งหมด 200 ตัวจำหน่ายลูกกระต่ายอายุ 1 เดือน ตัวละ 80 บาทเป็นเงิน 16,000 บาทหรือจำหน่ายกระต่ายขุน อายุ 6 เดือน 100 ตัว ตัวละ 2 กก. กก.ละ 70 บาท เป็นเงิน 14,000 บาท มูลกระต่าย จำนวน 10 กระสอบ กระสอบละ 20 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท สรุปแล้วจากการเลี้ยงกระต่ายที่เริ่มต้น 8 ตัวใน 1 ปี จะคืนทุนและมีกำไรไม่น้อยกว่า 2,720-4,720 บาท และหากต้องการกำไรที่มากกว่านี้ ก็เพิ่มปริมาณการเลี้ยงกระต่ายให้มากขึ้น ส่วนตลาดในตอนนี้เริ่มมีความนิยมมากขึ้น

เกษตรกรที่สนใจหากอยู่พื้นที่ภาคเหนือก็เดินทางเข้าไปศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้ ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แต่หากอยู่ในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล กทม. ในระหว่างวันที่ 8-12 มีนาคม 2555 นี้ ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ จะนำเรื่อง ดี ๆ เหล่านี้มาแสดงภายในงาน นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กทม. งานนี้รับข้อมูลและคำแนะนำพร้อมชมกิจกรรมต่าง ๆ ฟรี.


ที่มา..ข้อมูล/ภาพ เดลินิวส์