เห็ดทรัฟเฟิล



เห็ดทรัฟเฟิล "truffle"
เห็ดทรัฟเฟิลเป็นเห็ดที่มีราคาแพงที่สุด โตใต้ดิน เมื่อโตเต็มที่จะมีกลิ่นเฉพาะที่แรง จึงนิยมใช้หมูและหมาที่ถูกฝึกมาเพื่อหาเห็ดทรัฟเฟิล

เห็ดทรัฟเฟิลขาว (White truffle) มีกลิ่นหอมมาก พบแถบป่าตอนเหนือของอิตาลี และโครเอเชีย

ทรัฟเฟิลดำ (ฺBlack Truffle) : เห็ดทรัฟเฟิลดำ พบที่เมือง Périgord ในฝรั่งเศสช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7 เซนติเมตรน้ำหนักคร่าวๆประมาณ 100 กรัม ราคาตกที่กิโลกรัมละ 20,000 - 60,000 บาท

โดยปกติแล้วเห็ดทรัฟเฟิลจะมีราคาซื้อขายในกรุงโรมของอิตาลีในราคากิโลกรัมละ 11,155 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 380,000 บาท แต่โดยทั่วไปเห็ดทรัฟเฟิลจะมีน้ำหนักเพียง 30-80 กรัม
ในทุกปีมีการจัดงานประมูลเห็ด"ทรัฟเฟิล" นานาชาติ ในปี 2008 ประมูลกันไปในราคา 200,000 USD น้ำหนัก 1.080 กิโลกรัม จัดเป็นเเห็ดทรัฟเฟิลขาวที่ราคาแพงที่สุดในโลก

เห็ดทรัฟเฟิลดำทรัฟเฟิล คือส่วนดอกของเห็ดที่อาศัยอยู่ใต้ดินซึ่งถือได้ว่าเป็นเห็ดที่แพงมาก ต้นกำเนิดการกินเห็ดทรัฟเฟิลนี้มาจากประเทศฝรั่งเศสโดยใช้กลิ่นเป็นตัวนำ (นิยมกันมากว่า 2,000 ปีแล้ว สันนิฐานว่าคนที่นี่ชอบกลิ่นมาก่อนเหมือนกับไวน์ที่กลิ่นต้องดี รสชาติจะดีตามไปด้วย... มั้ง) จัดว่าเป็นเห็ดที่แพงที่สุดในโลกสำหรับเห็ดที่ใช้ในการผสมอาหาร

คาแร็คเตอร์ของทรัฟเฟิลเป็นเห็ดที่มีกลิ่นรุนแรงมาก หลักๆจะเป็นการให้กลิ่นหอมของดิน ถ้าเทียบกับสิ่งที่เราเคยพบก็คือดินโป่ง, ดินขาว และเห็ดฟางสด บางคนว่ากลิ่นเหมือนแก๊สรั่วก็มี(ไม่ใช่แก๊สไข่เน่านะ) ดังนั้นการผสมใส่ในอาหารอะไรก็ตามใช้นิดเดียวก็พอแล้ว ไม่มีใครนิยมกินเป็นดอกๆนอกจากรวยมากแล้วไม่มีอะไรทำ (เพราะทรัฟเฟิลเขาใช้แค่เป็นส่วนในการเพิ่มกลิ่นเท่านั้นเอง) สำหรับคนไทยส่วนใหญ่คงไม่อาจจะติดอกติดใจเท่าไร ข้อมูลจากผู้ที่เคยทานเห็ดทรัฟเฟิลมาจ๊ะ

เห็ดทรัฟเฟิลขาวหั่นกลางการฝึกสุนัขเพื่อดมกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลทรัฟเฟิลขาว (White Truffle) : ทรัฟเฟิลขาวเป็นทรัฟเฟิลที่แพงที่สุด ทรัฟเฟิลที่แพงที่สุดเลยคือทรัฟเฟิลขาวจากประเทศอิตาลี จากรัฐเพียดมองต์(Piedmont)เจริญเติบโตอยู่กับต้นโอ๊ค, ต้นบีช, ป๊อบปล่าร์ พบในในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 500 กรัม สนนราคาั่ก็ปาไป กิโลกรัมละ 50,000 - 150,000 บาท

 ส่วนน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลนั้นหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าทำมาจากเห็ดทรัฟเฟิลซึ่งแท้จริงแล้วน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลนั้นคือน้ำมันมะกอกที่เรารู้จักนี่เอง แต่นำมาสังเคราะห์ให้ได้กลิ่นเทียบเคียงกับทรัฟเฟิลให้มากที่สุด ประมาณว่าไม่ได้กินได้กลิ่นก็ยังดี ปล. มี 2 แบบ คือผสมด้วยเห็ดทรัฟเฟิล และสังเคราะห์ขึ้นเองซึ่งแบ่งไปตามเกรดจ๊ะ

ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเห็ดทรัฟเฟิลอาจจะเป็นเห็ดธรรมดาที่ใครก็สามารถเอื้อมถึงก็ได้เพราะตอนนี้ที่จีนเขาก็ผลิตกันเป็นล่ำเป็นสัน สร้างรายได้มากมายเข้าประเทศเขาไปแล้ว ไทยเราเองก็ริเริ่มกระบวนการเพาะเห็ดทรัฟเฟิลกับเขาบ้างแล้วซึ่งก็หวังว่าอาชีพนี้จะช่วยให้เกษตรกรผู้เพาะเห็ดลืมตาอ้าปากได้จ๊ะ

วิธีขุดเห็ดทรัฟเฟิลจะใช้เสียมอันเล็กๆ ค่อยๆ ขุดเบาๆ ไปเรื่อยๆ ราวกับขุดวัตถุโบราณ


การเพราะถั่วงอก

           เทคนิคเพาะถั่วงอก การเพราะถั่วงอก การเพราะถั่วงอกขาย มีรายได้สร้างงานมีกำไร

ถั่วงอก
 เงินลงทุน
ประมาณ 1,500 บาท

รายได้
1,400 บาท/175 กิโลกรัม

วัสดุ/อุปกรณ์
โอ่งน้ำ 5 ใบ กระสอบข้าวสาร อ่างล้างถั่วงอก สายยาง เมล็ดถั่วเขียว
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
เมล็ดถั่วเขียว หาซื้อได้ตามร้านค้าเมล็ดพันธุ์ไม้ทั่วไป


ขั้นตอน/วิธีทำ
1. นำโอ่งน้ำ หรือโอ่งลายมังกร ขนาดกลาง 5 ใบ มาเจาะรูที่ก้นโอ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร จำนวน 5 รูต่อใบ เพื่อให้น้ำไหลออก

2. นำเมล็ดถั่วเขียวน้ำหนัก 15 กิโลกรัม แช่ในน้ำสะอาด 1 วัน เมื่อแช่น้ำจนได้ที่แล้วให้ล้างเมล็ดถั่วเขียวให้สะอาด พร้อมกับช้อนเมล็ดถั่วที่ลอยน้ำทิ้ง เพราะเป็นเมล็ดเสียเพาะพันธุ์ไม่ได้

3. จากนั้นนำมาเทลงในโอ่ง ๆ ละ 3 กิโลกรัม จำนวน 5 โอ่ง ปิดทับด้วยกระสอบข้าวสาร ใช้ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยง 3 วัน โดยในแต่ละวันต้องรดน้ำวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เมื่อครบ 3 วัน แล้วจะได้ถั่วงอกมีความยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ได้น้ำหนัก 35-38 กิโลกรัม/1 โอ่ง รวม 5 โอ่ง จะได้ถั่วงอกประมาณ 175 กิโลกรัม ต่อเมล็ดถั่วเขียว 15 กิโลกรัม

ตลาด/แหล่งจำหน่าย
ขายส่งแม่ค้าตลาดสด หรือนำไปขายเองในตลาดสด

สถานที่ฝึกอบรม
สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 579-2294, 942-8460 ต่อ 219-222

ข้อแนะนำ
1. เมล็ดพันธุ์ควรเป็นเมล็ดถั่วเขียวผิวมันหรือถั่วเขียวสีดำ

2. การเพาะถั่วงอกในช่วงฤดูหนาว จะต้องเพิ่มระยะเวลาในการเพาะเป็น 4 วัน เพราะในช่วงฤดูหนาวพืชเติบโตช้า

3. หากมีเงินทุนและเพาะถั่วงอกจำนวนมาก ควรซื้อเครื่องปั้มน้ำ พร้อมสายยาง ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มอีก ประมาณ 20,000 บาท

4. วิธีรดน้ำควรที่จะมีตะแกรงพลาสติกรองรับแรงดันน้ำที่ไหลมาตามสายยางเพื่อป้องกันไม่ให้แรงดันน้ำเซาะถั่วงอกแตกกระจาย ซึ่งจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก และทำให้ถั่วงอกมีลักษณะหงิกงอ เสียรูปทรงได้

ที่มา : ส่งเสริมการมีงานทำ , กอง กรมการจัดหางานกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม,"เพาะถั่วงอก," 150 อาชีพเส้นทางประกอบอาชีพอิสระ . กรุงเทพฯ , 2544 , หน้า 248.
ลิ้งค์อื่น ๆ เพิ่มเติม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
http://www.poompanyathai.com/
บริการให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเพาะถั่วงอกเชิงพานิชย์

ความหมายและความสำคัญของถั่วงอก
ถั่วงอก คือ ผักชนิดหนึ่งซึ่งเป็นผักที่ยังเป็นต้นอ่อนที่เพิ่งโผล่พ้นเมล็ดโดยอาศัยธาตุอาหารต่าง ๆ ที่ถูกสะสมไว้ในเมล็ดเพื่อที่จะเติบโตเป็นต้นถั่ว แต่เมื่อนำเมล็ดถั่วมาเพาะในสภาพที่เหมาะสมโดยไม่ให้โดนแสงแดด ใบเลี้ยงกับรากของต้นถั่วจึงยังไม่โผล่เป็นต้นกล้ายังเป็นแค่หน่ออ่อนของถั่ว เราจึงเรียกว่า ถั่วงอก

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วงอก
ถั่วงอกเป็นผักที่ให้คุณค่าทางอาหารหลายอย่างทั้งโปรตีน เกลือแร่และวิตามิน จากการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารของถั่วงอก (ถั่วเขียวงอก) โดยกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าองค์ประกอบส่วนใหญ่ของถั่วงอกมีสารอาหารเหล่านี้
1. น้ำ
2. โปรตีน
3. แคลเซียม
4. ฟอสฟอรัส
5. วิตามินบี 1 บี 2
นอกจากคุณค่าทางอาหารที่กล่าวมาแล้ว ถั่วงอกยังมีกากใยอาหารหรือไฟเบอร์เหมือนกับผักผลไม้ทั่วไป โดยมีอยู่ในระดับปานกลาง

การใช้ประโยชน์จากถั่วงอก
ถั่วงอก เป็นพืชผักที่มีบทบาทในอาหารประจำวันของคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน จึงพบเห็นถั่วงอกมีขายในตลาดสดเคียงคู่กับผักชนิดอื่นตลอดเวลา และถั่วงอกใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด จะเห็นได้ว่าถั่วงอกเป็นทั้งองค์ประกอบหลักในการปรุงอาหารและเป็นองค์ประกอบรองในการปรุงอาหารโดยใช้เป็นเครื่องเคียงในอาหารต่าง ๆ ในอาหารบางชนิดจะขาดถั่วงอกไม่ได้ ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากถั่วงอกในการประกอบอาหารจึงมีมากมาย โดยจะพบเห็นถั่วงอกในอาหาร ดังนี้

อาหารที่ประกอบด้วยถั่วงอก
ถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ ถั่วงอกผัดกับเลือดหมู
ผัดผักมังสวิรัติ แกงจืดถั่วงอกกับหมูสับ
แกงส้ม ก๋วยเตี๋ยวหมูแดง
ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา
ก๋วยเตี๋ยวหลอดเกาเหลาทุกชนิด
หมี่กะทิ หมี่ซั่วผัด
ปอเปี๊ยะ ขนมหัวผักกาด



ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นญี่ปุ่น



สูตรการทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นญี่ปุ่น  วิธีทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นญี่ปุ่น

เนื้อตุ๋นญี่ปุ่น
 เครื่องปรุง
1. เนื้อ 3 ชั้นหนาท้องวัว        5   ก.ก.
2. ผงพะโล้                         2   ช้อนโต๊ะ
3.พริกไทยเม็ด                    1   ช้อนโต๊ะ
4. อบเชย                           5   ชิ้น
5.ซีอิ๊วขาว                          3   ทับพี
6.โป๊ยกั๊ก                           4   ดอก
7.ชวนเจีย                          1   ช้อนโต๊ะ
8.ชอสถั่วเหลือง                  3   ทับพี
9.น้ำตาลกรวด                    1    ขีด
10.กระดูกวัว                      2    ก.ก.


วิธีทำ
1. นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อเติมน้ำให้ข้อนปากหม้อ ตั้งไฟให้เดือดใส่เนื้อลงไปแล้วต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ 2 ชั่วโมง
2.เมื่อเนื้อ 3 ชั้นสุกนุ่มดีแล้วตักเนื้อขึ้นมาหันให้เป็นชิ้นเล็กๆพอคำ แล้วใส่หม้อเคียวต่อไปจนเนื้อเปื่อยนุ่น
3.น้ำชุบต้มเนื้อและกระดูกวัวที่ได้ให้เคี่ยวต่อไป จนได้น้ำชุบที่มีรสชาดกลมกล่อมถูกใจและทำเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยว